พัฒนาการยุคต้น ๆ ของ ยุคหินกลาง_(แอฟริกา)

หุบเขาอะวอช (Awash)

กำเนิดวัฒนธรรม MSA โดยมากจะกำหนดโดยการเปลี่ยนใช้เทคโนโลยีหินแบบอะชูเลียน (Acheulian) ไปเป็นแบบ MSAซึ่งพิจารณาว่าเป็นกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่เหตุการณ์หนึ่ง ๆ ที่เทคโนโลยีมนุษย์ก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็วแม้ว่าการเปลี่ยนเช่นนี้จะมีอายุต่าง ๆ กัน โบราณสถาน MSA เก่าแก่ที่สุดอันหาอายุน่าเชื่อถือได้ที่สุดก็คือ Gademotta Formation ในเอธิโอเปีย ซึ่งเก่าแก่เกิน 276,000 ปีก่อน[8]

หุบเขาอะวอชกลาง (Middle Awash) ในเอธิโอเปีย และหุบเขา Central Rift ในเคนยารวมกันเป็นศูนย์นวัตกรรมทางพฤติกรรมที่สำคัญ[9]อาจเป็นไปได้ว่า เขตเหล่านี้มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นจำนวนมากซึ่งสามารถรับรองประชากรมนุษย์จำนวนพอสมควรที่หากินและผลิตเครื่องมือในรูปแบบที่คล้าย ๆ กับมนุษย์นักล่า-เก็บของป่าที่พบในสาขาชาติพันธุ์วรรณนา

หลักฐานโบราณคดีจากแอฟริกาตะวันออกเริ่มจาก Rift Valley ในเอธิโอเปียไปจนถึงแทนซาเนียเหนือ เป็นหลักฐานจำนวนมากที่สุดของการเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีอะชูเลียนรุ่นปลายไปเป็นเทคโนโลยีแบบ MSAการเปลี่ยนแปลงเห็นได้จากลำดับชั้นหินที่มีเครื่องมือหินแบบอะชูเลียน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขวานหินสองคม (bifacial handaxe) ที่พบใต้หรือในชั้นหินเดียวกับที่มีเทคโนโลยี MSA รวมทั้งเครื่องมือแบบ Levallois, ชิ้นหินที่ตีออก (flake), เครื่องมือทำจากชิ้นหินที่ตีออก, ชิ้นหินแหลม, ชิ้นหินสองคมเล็กสำหรับอาวุธแบบพุ่ง, และที่มีน้อยมาก ก็คือเครื่องมือใส่ด้าม[6][8]ดังนั้น หลักฐานว่าการเปลี่ยนใช้เทคโนโลยีเป็นเรื่องค่อยเป็นค่อยไปจึงมาจากเครื่องมือหิน "ต่างยุค" ที่พบในชั้นหินตามลำดับหรือชั้นเดียวกันและมาจากการปรากฏแรกสุดของเทคโนโลยี MSA ในโบราณสถาน Gademotta เมื่อ 276,000 ปีก่อน และหลักฐานเทคโนโลยีอะชูเลียนที่ปรากฏหลังสุด ที่หมวดหินบุรี (Bouri Formation) ซึ่งมีอายุระหว่าง 154,000-160,000 ปีก่อนซึ่งแสดงการเหลื่อมล้ำกันจนอาจถึง 100,000-150,000 ปี[8]

ถ้ำต่าง ๆ ในแอฟริกาใต้ก็ให้ข้อมูลในการเปลี่ยนแปลงที่หาอายุได้อย่างแม่นยำเนื่องจากตะกอนเถ้าภูเขาไฟ โดยพบอายุถ้ำต่าง ๆ ที่ระหว่าง 999,000 - 49,000 ปีก่อนแม้ถ้ำฮารธ์ส (Cave of Hearths) และถ้ำมอนเตกิว (Montague Cave) ในแอฟริกาใต้จะมีหลักฐานเทคโนโลยีทั้งแบบอะชูเลียนและ MSA แต่ก็ไม่มีการเหลื่อมล้ำกันโดยอายุ[6]